การกู้เงินซื้อบ้านนับว่าเป็นเรื่องใหญ่ของชีวิต โดยเฉพาะกับมนุษย์เงินเดือนที่อยากซื้อบ้านหลังแรกเป็นของตัวเอง แต่หลายคนอาจยังมีความกังวลหรือข้อสงสัยที่อาจยังไม่รู้คำตอบ วันนี้จึงรวบรวม 5 คำถามยอดฮิตของมนุษย์เงินเดือนเมื่อคิดจะยื่นกู้ซื้อบ้าน พร้อมกับคำตอบช่วยคลายความสงสัย ที่จะช่วยให้เตรียมตัวมีบ้านในฝันได้ง่ายขึ้น
Q: อยากกู้เงินซื้อบ้านราคา 2 ล้าน แต่มีบัตรเครดิตอยู่หลายใบ จ่ายตรงเวลาตลอด และไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน มีแนวทางที่จะพอกู้ผ่านไหม
A: ความยากของกรณีนี้คือการที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งโดยปกติแล้วธนาคารมีแนวโน้มที่จะไม่ให้วงเงินสินเชื่อ ทำให้ต้องแสดงให้ทางธนาคารเห็นว่าผู้กู้มีความสามารถในการชำระหนี้คืนกับธนาคาร ซึ่งเครื่องมือที่จะช่วยในกรณีนี้ได้คือบัญชีเงินฝาก โดยอาจที่จะต้องมีเงินฝากในบัญชีธนาคารให้มากเข้าไว้ หรือจะเป็นบัญชีการออมในรูปแบบอื่นๆ เช่นบัญชีหุ้นก็ได้เช่นกัน
อีกสิ่งหนึ่งที่ควรทำคือการลดจำนวนบัตรเครดิตให้เหลือเพียงใบเดียว เนื่องจากหนี้บัตรเครดิตทั้งหมดจะถูกนับรวมเป็นยอดผ่อนต่อรายได้ก้อนหนึ่งด้วยเช่นกัน ยิ่งมีบัตรเครดิตมากเท่าไหร่ มูลค่าที่ถูกกันไว้จะสูงขึ้นจนไม่อาจขอสินเชื่อผ่านได้ง่ายนัก การลดวงเงินส่วนนี้ลงจะทำให้แนวโน้มที่จะได้รับอนุมัติสินเชื่อมากขึ้นกว่าเดิม
ซึ่งการปิดบัตรเครดิตนั้น หากมียอดหนี้เดิมอยู่หลายก้อน วิธีการที่ทำให้ปิดบัตรเครดิตได้เร็วที่สุดคือการรีไฟแนนซ์ก้อนหนี้เดิมทั้งหมดรวมให้เป็นก้อนใหม่ก้อนเดียว และหากเป็นไปได้ ให้ใช้เงินก้อนโปะยอดหนี้ทั้งหมดเท่าที่จะทำได้ เพื่อลดจำนวนเงินต้นที่ค้างอยู่ให้น้อยลง และผลพลอยได้คือทำให้ได้วงเงินสินเชื่อบ้านนั้นเพิ่มขึ้นอีกด้วย
หลายท่านอาจจะกำลังหาโครงการบ้านราคา 2 ล้าน แนะนำให้ลองดูโครงการ สิริ เพลส ประชาอุทิศ 90 ทาวน์โฮมสไตล์โมเดิร์น ลอฟท์ ที่ถูกออกแบบให้ลงตัวกับชีวิตคนเมือง บนทำเลประชาอุทิศ 90 ที่เชื่อมต่อถนนไปยังเส้นสำคัญได้ทั้งถนนสุขสวัสดิ์ และถนนพุทธบูชา อีกทั้งอยู่ใกล้ทางด่วนเฉลิมมหานครและถนนกาญจนาภิเษกฝั่งใต้ที่สามารถเชื่อมต่อไปย่านสำคัญในกรุงเทพทั้งพระราม 2 หรือเข้าเมืองทางถนนพระราม 3 พร้อมเติมเต็มทุกการใช้ชีวิตด้วยแหล่งอำนวยความสะดวกครบครันรอบด้าน
Q: ตอนนี้กำลังผ่อนบ้านอยู่ แต่อยากจะกู้เงินซื้อคอนโดเพื่อลงทุน จะทำได้หรือไม่
A: สามารถทำได้ ตราบใดที่ยังแสดงให้ธนาคารเห็นว่าการลงทุนนั้นคุ้มค่าต่อความเสี่ยงของธนาคาร ซึ่งการเตรียมตัวก็เช่นเดียวกันกับการกู้สินเชื่อปกติ
Q: ถ้าติดเครดิตบูโรอยู่ จะกู้ซื้อบ้านได้มั้ย
A: เครดิตบูโรคือ หน่วยงานที่รวบรวบประวัติและข้อมูลการชำระสินเชื่อของแต่ละบุคคล ซึ่งธนาคารสามารถที่จะเรียกดูเพื่อประเมินความสามารถในการชำระหนี้ โดยการกู้เพื่อซื้อบ้านธนาคารจำเป็นต้องพิจารณาข้อมูลเครดิต โดยหากมีประวัติทางการเงินที่ไม่ดี จะมีแนวโน้มสูงที่จะไม่พิจารณาเงินกู้ให้ หรือเรียกกับเป็นภาษาง่ายๆ คือ ‘ติดเครดิตบูโร’ นั่นเอง
วิธีการเดียวที่จะกู้ซื้อบ้านได้เมื่อหาก ‘ติดเครดิตบูโร’ คือ ต้องจัดการหนี้เก่าที่คั่งค้างอยู่ให้เรียบร้อยเสียก่อน และด้วยการที่ประวัติการชำระหนี้จะค้างอยู่ในระบบถึง 2 ปี สิ่งที่ควรทำคือ การเพิ่มความน่าเชื่อถือของประวัติทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นทำให้บัญชีมีการเข้า-ออกเงินอย่างต่อเนื่อง มีการเก็บเงินไว้ในบัญชีระดับหนึ่ง หรือชำระสินเชื่อให้ตรงเวลาอย่าสม่ำเสมอ
Q: เคยยื่นกู้ซื้อบ้านกับธนาคารแล้วไม่ผ่าน จะสามารถยื่นกู้ได้อีกกี่ครั้ง
A: อันที่จริงแล้วการยื่นกู้ซื้อบ้านกับธนาคารนั้นไม่ได้มีการจำกัดจำนวนครั้งในการยื่นกู้ โดยหากมนุษย์เงินเดือนยื่นกู้ซื้อบ้านครั้งแรกแล้วกู้บ้านไม่ผ่านหรือไม่ได้รับการอนุมัติ ธนาคารมักจะให้สิทธิในการอุทธรณ์หรือสิทธิในการยื่นหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อพิจารณาว่ามีความสามารถในการชำระสินเชื่อหรือไม่
ซึ่งเทคนิคที่จะช่วยให้มนุษย์เงินเดือนอุทธรณ์สินเชื่อผ่าน ประกอบไปด้วย
- ยอดผ่อนต่อรายได้ (Debt Service Ratio – DSR) ยอดผ่อนต่อรายได้หมายถึง สัดส่วนของเงินผ่อนต่อรายได้ต่อเดือน แม้ว่าธนาคารบางแห่งจะยอมให้มียอดผ่อนต่อรายได้สูงถึง 70% แต่เกณฑ์มาตรฐานของธนาคารส่วนใหญ่มักอยู่ที่ 50% ของรายได้ ซึ่งหากยอดผ่อนต่อรายได้ มีแนวโน้มที่จะเกินเกณฑ์ ธนาคารก็อาจไม่อนุมัติสินเชื่อให้
วิธีการที่จะรักษายอดผ่อนต่อรายได้ให้อยู่ในเกณฑ์ 50% มีอยู่ 2 ทางคือ การเพิ่มรายได้ และ ลดภาระการผ่อนที่ไม่จำเป็น อาทิ ผ่อนรถ บัตรเครดิต หรือสินเชื่อส่วนบุคคล - ใช้บัญชีเงินฝากให้เป็นประโยชน์ เงินฝากหรือเงินเก็บถือเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ธนาคารเห็นว่ามนุษย์เงินเดือนคนมีวินัยทางการเงิน และสามารถชำระสินเชื่อได้ตลอดอายุสัญญา โดยที่ธนาคารไม่สามารถยึดเงินส่วนนี้ไปได้ หากไม่ถูกนำไปใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ในที่นี้บัญชีเงินฝากจึงมีประโยชน์ในฐานะของเครื่องมือเพิ่มความน่าเชื่อถือทางการเงิน ที่จะช่วยให้อนุมัติสินเชื่อได้ง่ายยิ่งขึ้น
- ลดจำนวนสินเชื่อลง เพราะธนาคารโดยส่วนใหญ่มักปล่อยสินเชื่อให้ซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัย ซึ่งความเสี่ยงต่ำกว่าการซื้อบ้านเพื่อลงทุน เพราะฉะนั้นธนาคารมักจะจำกัดโควตาสินเชื่อไว้ที่ 3-5 สินเชื่อ ต่อบุคคล โดยที่ 1 สินเชื่อเท่ากับ 1 วงเงิน จึงทำให้สามารถกู้ซื้อบ้านหลายหลังพร้อมกันได้ หากทำการรวมเข้ากันเป็นวงเงินก้อนเดียว
ทั้งนี้ถ้ามนุษย์เงินเดือนมีต้องการที่จะกู้เพิ่มเติม วิธีการที่จะช่วยให้กู้สินเชื่อได้คือ การยุบสินเชื่อให้เป็นก้อนเดียวกันด้วยการ Refinance เพื่อเคลียร์โควตาในการรับสินเชื่อของคุณให้เหลือมากขึ้น - พนักงานสินเชื่อมีผลอย่างมาก พนักงานสินเชื่อคือ ผู้ยื่นเอกสารและทำเรื่องขออนุมัติกับทางธนาคาร ซึ่งพวกเขาจะรู้ว่าต้องทำอย่างไรที่จะทำให้กู้สินเชื่อผ่านได้ง่ายขึ้น พนักงานสินเชื่อมักจะแนะนำขั้นตอน วิธีขอสินเชื่อได้ง่ายขึ้น
Q: เซ็นสัญญาเงินกู้เรียบร้อยแล้วต้องทำอย่างไรต่อ
A: หลังจากที่ธนาคารพิจารณาอนุมัติให้เงินกู้เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเซ็นสัญญาเงินกู้ระหว่างมนุษย์เงินเดือนกับธนาคาร ตามมาด้วยขั้นตอนการโอนที่ดินที่กรมที่ดิน ซึ่งอาจจะมีค่าใช้จ่ายในการโอนอย่างภาษีที่ดินและค่าดำเนินการ แต่แสนสิริจะช่วยลดภาระทุกค่าใช้จ่ายวันโอนกับโครงการหลากหลายทำเล อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องจัดการคือประกันภัยบ้านที่ธนาคารมักให้ทำไว้พร้อมกัน โดยเฉพาะประกันอัคคีภัยและประกันภัยพิบัติที่จะช่วยคุ้มครองความเสียหายเมื่อเกิดเหตุขึ้น ซึ่งข้อดีของการทำประกันบ้านพร้อมกู้เงินคือค่าเบี้ยประกันที่จะถูกลง รวมไปถึงดอกเบี้ยสินเชื่อที่บ้านอาจมีส่วนลดตามมาด้วย และเมื่อเสร็จกระบวนการทั้งหมดแล้ว ก็สามารถย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านของได้ทันที
หวังว่า 5 คำถามยอดฮิตก่อนจะกู้เงินซื้อบ้านเหล่านี้จะช่วยให้มนุษย์เงินเดือนที่อยากมีบ้านทุกคนเตรียมตัวก่อนกู้ซื้อบ้านได้ง่ายขึ้น แต่การกู้ซื้อบ้านจะย่อมเป็นไปไม่ได้หากยังไม่มีบ้านที่ต้องการ หากกำลังมองหาบ้านอยู่ แสนสิริมีโครงการทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียมที่พร้อมเข้าอยู่ได้ทันทีหลากรูปแบบในหลายทำเลที่น่าสนใจ
ถ้าตัดสินใจเลือกโครงการที่ชอบได้แล้ว สามารถคำนวณสินเชื่อด้วยโปรแกรมคำนวนสินเชื่อของแสนสิริได้เลย โปรแกรมนี้จะช่วยให้คุณวางแผนทางการเงินได้อย่างสบายๆ และช่วยให้มีบ้านในฝันได้อย่างที่ต้องการ
Cr. https://www.sansiri.com/content/view/คำแนะนำกู้บ้าน-5-คำถามยอดฮิตที่ต้องเจอ-เมื่อมนุษย์เงินเดือนคิดจะซื้อบ้าน/th