ปัจจุบันคำว่า “มินิมอล” กลายเป็นคำฮิตติดหูกันไปทั่วบ้านทั่วเมือง หากจะให้อธิบายคำว่า “มินิมอล” ก็อาจสรุปได้ความว่าความเรียบ เน้นโล่ง สีสันสบายตา ซึ่งคำนี้ถูกใช้ในงานต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะการแต่งกาย การใช้ชีวิต หรือแม้แต่การแต่งบ้านเองก็ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายไม่แพ้กัน ในวันนี้เราจะมาพูดถึงการแต่งบ้านที่มินิมอล สบายตา เน้นน้อยแต่มาก แต่หากกล่าวถึงการแต่งบ้าน เราก็ย่อมต้องคำนึงถึงหลักฮวงจุ้ยด้วย เพื่อให้ผู้พักอาศัยอยู่บ้านอย่างสงบและเป็นสุข เสริมดวงให้เฮงและปังไปพร้อมๆ กับการแต่งบ้านที่ถูกใจ
การแต่งบ้านสไตล์มินิมอล
เทรนด์การแต่งบ้านแบบมินิมอล ปัจจุบันกำลังได้รับความนิยมอย่างสูง โดยการแต่งบ้านสไตล์นี้เน้นไปที่ความโล่ง สิ่งของน้อยชิ้น เฟอร์นิเจอร์ไม่เยอะ เรียบง่ายสบายตา ไม่มีสีสันลวดลายฉูดฉาด สีที่ใช้มักใช้สีโทนเรียบ สีโทนอ่อนสบายตา ข้อดีของการแต่งห้องสไตล์นี้ ช่วยทำให้ห้องที่เล็กดูกว้างขึ้น ของเป็นระเบียบ ในห้องจะมีแค่ของที่จำเป็นจะต้องใช้จริงๆ ถ้าหากมีของใช้เยอะเกินความจำเป็น เราก็อาจจะสูญเสียวิญญาณความเป็นชาวมินิมอลไปได้
ความเป็นมินิมอลและศาสตร์ฮวงจุ้ยในการแต่งบ้าน
หากจะกล่าวถึงการจัดบ้านตามหลักฮวงจุ้ย ไปพร้อมกับการจัดบ้านสไตล์มินิมอล ก็อาจจะมีอุปสรรคเล็กน้อยเกิดขึ้น เพราะการจัดบ้านตามหลักฮวงจุ้ย ค่อนข้างจะหลักการเยอะพอสมควร ต้องเน้นรายละเอียดในหลายส่วน ไม่ว่าจะการใช้สี การจัดวางตำแหน่งเฟอร์นิเจอร์ การวางประตูและหน้าต่าง ซึ่งอาจจะทำให้ผิดไปจากความเป็นมินิมอลที่เราต้องการ ที่กล่าวถึงความเน้นเรียบง่าย และสบายตา ถ้าอยากจะแต่งบ้านที่ถูกหลักฮวงจุ้ย แต่มีความมินิมอลไปพร้อม ๆ กัน สามารถทำได้ไหม? แน่นอนว่าสามารถทำได้ และเราก็มีไอเดียสำหรับการแต่งบ้านแบบมินิมอลตามหลักฮวงจุ้ยมาฝาก
1. โล่งและคลีน รับพลังบวก
เพียงแค่เราต้องจัดวางข้าวของเครื่องใช้ และเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ให้เป็นระเบียบ ห้องต้องห้ามรก สิ่งของต้องน้อยชิ้น ทำให้บ้านดูโล่งโปร่งสบายที่สุด เพื่อเปิดรับพลังงานดีๆ เข้ามาหมุนเวียนภายในบ้าน ซึ่งก็ไปตรงกับศาสตร์ฮวงจุ้ยที่กล่าวว่า “เมื่อบ้านสกปรก ข้าวของเครื่องใช้เกะกะไม่ถูกจัดให้เป็นที่เป็นทาง ย่อมขัดขวางพลังของโชคลาภ และพลังอันดี” ซึ่งหากมองในมุมวิทยาศาสตร์แล้ว ก็อาจกล่าวได้ว่าการปล่อยให้บ้านสกปรก ไม่เป็นระเบียบย่อมเป็นที่สะสมของเชื้อโรค ทำให้ผู้อยู่อาศัยสุขภาพไม่ดี แล้วจะทำให้ความสุขเกิดขึ้นกับผู้อาศัยได้อย่างไร ฉะนั้นแล้วเราควรต้องหมั่นทำความสะอาดบ้านอยู่สม่ำเสมอ แถมเคล็ดไม่ลับอีกนิดคือ อย่าลืมเสริมบรรยากาศให้สดชื่นมีชีวิตชีวา ด้วยกลิ่นหอมอย่างกลิ่นอโรมา เพื่อกระตุ้นพลังงานด้านบวกอยู่เสมอด้วย
2. โปร่งโล่ง สบาย และแสงสว่างเพียงพอ
การแต่งบ้านตามหลักของบ้านมินิมอล คือเน้นสบายตา เรียบง่าย สว่าง ไม่อับและทึบ เน้นการใช้โทนสีอ่อนเป็นหลัก การที่เราจัดบ้านและข้าวของเครื่องใช้ให้เข้าที่เป็นระเบียบ มีแสงสว่างส่องเข้ามาภายในบ้านอย่างเพียงพอ รวมไปจนถึงการเลือกผ้าม่านแบบโปร่งสบาย ก็เหมือนกับศาสตร์ฮวงจุ้ยที่ว่า “หากบ้านมืดทึบ ก็เหมือนโชคชะตาที่อับแสง ฉะนั้นแล้วเราควรจัดบ้านให้โปร่งโล่งสบาย แสงสว่างเพียงพอ” ไม่ว่าจะแสงจากธรรมชาติที่ส่องเข้ามาผ่านหน้าต่าง หรือการติดไฟเพิ่มภายในบ้านก็ตาม ล้วนเป็นการช่วยส่งเสริมดวงชะตาผู้ที่อยู่อาศัยให้ไม่อับจนหนทาง ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จ หากเกิดปัญหาก็สามารถหาทางแก้ไขได้ ส่งเสริมให้ชีวิตมีแต่พลังบวก
3. พลังธรรมชาตินำพาโชคลาภสู่บ้าน
ตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว บ้านที่มีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติรายล้อมไปรอบรั้วบ้าน สื่อถึงความเจริญเติบโตและความมั่งคั่งของผู้อาศัย ไอเดียง่ายๆ ที่เหมาะกับความเป็นมินิมอล อาจจะเริ่มต้นจากการหาต้นไม้ใบเขียวๆ นำมาจัดใส่กระถางใบเรียบ ไม่มีลาย ตั้งไว้ตามมุมที่เหมาะสมภายในบ้านหรือบริเวณรอบบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นต้นไม้มงคลด้วยแล้ว ยิ่งช่วยเสริมดวงผู้อยู่อาศัยเข้าไปใหญ่ เช่น ต้นวาสนา ต้นกวักมรกต กระบองเพชร เป็นต้น แต่ถ้าไม่สะดวกกับการหาต้นไม้หรือจัดวางต้นไม้ภายในบ้าน ก็อาจจะเลือกเป็นรูปภาพที่แสดงถึงพลังของธรรมชาติ หรือแฝงไปด้วยความหมายดีๆ มาแขวนในมุมที่เหมาะสมแทนก็ได้ เช่น รูปน้ำตก ทะเล ที่สื่อความหมายถึงกระแสเงินที่หมุนเวียนเข้ากระเป๋าอย่างไม่รู้จบ หรืออาจจะเลือกแขวนเป็นเป็นต้นไม้ ดอกไม้ เพราะช่วยสื่อถึงความสงบ เพิ่มพลังความรักให้กับผู้อยู่อาศัย นอกจากนี้ เราอาจจะเคยเห็นผ่านตามาบ้างว่าการแต่งบ้านแบบมินิมอล มักจะถูกเลือกใช้โทนสีอ่อนที่มีความคล้ายไม้ เช่นสีเอิร์ธโทน ซึ่งทำให้บ้านดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น หรืออาจจะเป็นการเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นไม้จริง หรือเสมือนจริงเข้ามาตกแต่งภายในบ้านจะช่วยเสริมพลังงานดีๆ ในบ้านได้
4. เปิดรับทรัพย์ตั้งแต่หน้าประตู
ประตู เป็นเสมือนด่านหน้า ที่ช่วยเปิดรับทรัพย์ให้เข้ามาในบ้านได้ ตามหลักฮวงจุ้ย กล่าวว่า “บ้านที่ดี ทางเข้าบ้านควรมีทางเดินที่กว้างโล่ง สามารถเดินได้สะดวก เพื่อเปิดรับความโชคดีให้เข้ามาสู่บ้านได้อย่างสะดวก” ประตูบ้านควรมีขนาดใหญ่ มีสีอ่อนเรียบ แต่ยังคงสะอาดสะอ้าน ซึ่งสอดคล้องกับความเป็นมินิมอลที่ต้องสะอาด ไม่ฉูดฉาด และเป็นระเบียบ สำหรับประตูบ้าน หากแก้ไขได้ยาก ก็สามารถแก้ไขได้โดยจัดทางเดินเข้าบ้านให้กว้างขวาง สะอาดตา ไม่วางข้าวของเกะกะ ควรจัดระเบียบให้เรียบร้อยน่ามอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกรองเท้าต่างๆ ควรหาที่ทางจัดเจ็บให้เหมาะสม หากไม่จัดเก็บเข้าตู้ ก็ควรวางบนชั้นวางให้เป้นระเบียบเรียบร้อย เพื่อเปิดรับโชคลาภให้ไหลเข้าบ้านได้อย่างดี
5. การเลือกสีก็สำคัญ
โดยส่วนมากการแต่งบ้านสไตล์มินิมอลจะเน้นสองสีเป็นหลัก เช่น สีขาวเป็นส่วนใหญ่ เฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งก็จะเป็นอีกสีที่คุมโทน หรือจะเน้นไปที่สีเดียว เช่น สีเอิร์ธโทน ที่บ่งบอกถึงความเป็นธรรมชาติ โดยเลือกใช้ของตกแต่งเป็นวัสดุที่ทำจากไม้ ไม่มีลวดลายฉูดฉาด เช่น เก้าอี้ไม้ เตียงไม้ แจกันไม้ เครื่องครัวเน้นลายไม้เป็นหลัก อย่างที่ทราบกันดีว่า สีทองนั้น สื่อถึงความมั่งคั่ง ร่ำรวย ซึ่งเป็นสีมงคลในศาสตร์ฮวงจุ้ย คนที่มีฐานะจึงมักเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีสีทอง เพราะบ่งบอกถึงความมีฐานะ และยังช่วยส่งเสริมความมีฐานะให้ตนเพิ่มมากขึ้นด้วย แต่สำหรับความเป็นมินิมอลแล้ว จะให้มาแต่งบ้านด้วยการทาผนังสีทอง หรือเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่เป็นสีทองทั่วบ้านแล้วก็คงจะไม่เหมาะ เราควรจะปรับให้อยู่ตรงกึ่งกลางระหว่างความเป็นมินิมอลและถูกหลักฮวงจุ้ยโดยการเลือกเฟอร์นิเจอร์บางชิ้นมาตกแต่งเล็กๆ น้อยๆภายในบ้าน เช่นการเลือกใช้กรอบรูปสีทองติดที่ผนังห้องในมุมที่เหมาะสม โคมไฟสีทองขนาดกะทัดรัด หรือจะเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์สีทองที่เข้ากับความเป็นมินิมอลมาใช้ก็ถือเป็นไอเดียที่ดี และยังช่วยส่งเสริมความมีฐานะให้กับผู้อาศัยได้มากขึ้นด้วย เป็นการแต่งบ้านมินิมอล แบบถูกหลักฮวงจุ้ยที่ลงตัวสุดๆ